หากเราอยากจะทำหน้าเว็บไซต์ซักหน้าหนึ่ง เราก็คงจะได้ยินหรือคุ้นเคยชื่อภาษาโปรแกรมมิ่งอย่างภาษา HTML, CSS, และก็ JavaScript ใช่ไหมหล่ะครับ ซึ่งทั้งสามภาษาหลักนี้ก็ดูเหมือนจะไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่เมื่อเพื่อน ๆ มีเว็บไซต์ขนาดใหญ่แล้วต้องการจัดการโค้ดเหล่านั้นให้เด็ดขาดก็จะทำได้ยากขึ้นซึ่งเป็นปัญหาของทุกภาษาโปรแกรมมิ่ง

วันนี้ผมก็ได้พบเจอกับภาษาโปรแกรมมิ่งหน้าใหม่ที่ดีกว่าและมากกว่า JavaScript นั่นก็คือภาษา TypeScript ที่รวมเอาทั้งความเป็น Java และ JavaScript เข้าด้วยกันอย่างลงตัว แถมยังสามารถเอาไปใช้งานคู่กับ JavaScript เดิมที่เพื่อน ๆ อาจจะมีอยู่แล้วได้อีกด้วย

แต่มันจะดีกว่าอย่างไรหล่ะ?! มาดูกันเลยครับ

Once you've finished customizing your Docusaurus blog and are happy with how it looks and functions, it's time to deploy it to the internet. Netlify is a great platform for hosting static websites like Docusaurus blogs. Here's how you can deploy your blog using Netlify:

Now that you're excited about Docusaurus, let's get started on creating your own Docusaurus blog. Follow these steps to set up your Docusaurus repository:

When you are talking about creating a hobby of blogging, the benefits of sharing your thoughts, and your new ideas, your passion is there, and it serves everyone. Even though it is not your main objective, the benefits of public exposure are there for you to grab. You will be known as a person who do blogging and you can brag that to all your friends that you get exposed by international or well-known companies.

And that is me. I want to express my knowledge and try to practice my writing, programming, and learning skills to the test with all of this blogging. But how can I do that?

The power of AI is getting stronger every minute, with billions upon billions of dollars pouring in and knowing that LLMs like ChatGPT and Bard can outperform even the very best employee, it has caused total disruptions in every industry sector; but how can AI get killed by itself?

ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผมก็ได้ทำการก่อตั้งเว็บไซต์ที่ตั้งใจจะเป็นเหมือน Blog ในนาม “The Sunny Side” ที่ได้เติบโตมาจากการเขียนเล่นแต่ผลตอบรับดีใน Medium.com เพื่อโอกาสและความยืดหยุ่นที่เราต้องการ และในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตลอดสี่เดือนที่ได้มีการรีแบรนด์เว็บไซต์และเปลี่ยนทิศทางในการเขียนอย่างเป็นนัยอย่าง “ByteSide.one” พร้อมกับวันนี้ที่มีผู้เข้าชมเว็บไซต์สะสมครึ่งแสน และ Total Impressions ภายใน Google Search Console ใกล้แตะ 500,000 ครั้งเข้าไปแล้ว

โดยในสตอรีนี้ผมก็จะมาแชร์ประสบการณ์การเขียนเรื่องราวบนเว็บไซต์ ByteSide ในปี 2021 ให้เพื่อน ๆ ได้เอาไปใช้เป็นกรณีศึกษาและเป็นที่ระลึก และหวังว่าจะได้เขียนสตอรีประเภทนี้อีกครั้งในปีหน้าที่กำลังจะถึงนี้ครับ

ตอนสุดท้ายแล้วสำหรับการสร้างเว็บไซต์ WordPress ใน Amazon Web Service (AWS) ที่ในตอนนี้เรามาถึงในเรื่องของการโอนย้ายหน้าที่การให้บริการมีเดียมายัง AWS CloudFront และขั้นตอนสุดท้ายนั่นก็คือการให้ Plug-In นั้นทำหน้าที่เปลี่ยน URL มีเดียที่อยู่บนหน้าเว็บทั้งหมดให้มาเป็น CloudFront เพื่อเปลี่ยนมาขอมีเดียจาก CloudFront แทนนั่นเอง

ดังนั้นในสตอรีนี้ เราจะมาทำการเชื่อมต่อบริการ AWS CloudFront กับ WordPress Plug-In และเริ่มบริการมีเดียแก่ผู้ใช้งานด้วยความปลอดภัยระดับ HTTPS และได้รับประโยชน์จากการใช้ HTTPS อย่างเช่นการเพิ่มคะแนน Google Index และให้ผู้ใช้งานนั้นอุ่นใจเมื่อเข้าเว็บไซต์ของเราครับ โดยเราจะพาทุกคนไปดูขั้นตอนการสร้าง Certificate ด้วย AWS Certificate Manager และเชื่อมต่อ Certificate Manager เข้ากับชื่อโดเมนที่เราจะใช้เป็น CDN ในขั้นตอนที่แล้วเพื่อรองรับ (หรือบังคับ) ให้บริการมีเดียผ่านความปลอดภัยอย่าง HTTPS

หลังจากที่เราได้ทำการสร้าง Bucket บน S3 และให้ใช้ Bucket แทน Instance บน Lightsail แล้ว ขั้นตอนต่อไปที่เราจะต้องทำเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการสร้างโปรเจ็กต์นั่นก็คือการเพิ่มความเร็วให้กับการให้บริการรูป ด้วยการใช้เน็ตเวิร์คเพื่อให้บริการคอนเท้นท์อย่าง CloudFront ที่จะมาทำหน้าที่เป็นเครือข่ายการจัดส่งเนื้อหา (Content Delivery Network หรือ CDN) ให้กับเว็บไซต์ของเรา รวมไปถึงการใช้ Custom Domain บน CloudFront เพื่อเป็นการเพิ่มคะแนน Index อีกด้วย

ในสตอรีนี้เป็นตอนที่ 3 จากการสร้างเว็บไซต์ WordPress ด้วยการใช้ AWS Lightsail, CloudFront, S3, Route 53, Certificate Manager และ IAM โดยเราจะมาเจาะลึกกับการให้บริการไฟล์มีเดียด้วยการใช้ AWS Simple Storage Service (AWS S3) ด้วยการให้บริการในรูปแบบ Content Delivery Network (CDN) เพื่อให้สามารถให้บริการผู้ใช้งานได้เร็วขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อคะแนน Index ของพวก Search Engine และสร้างความพึงพอใจกับผู้ใช้งานแม้เขาจะมีอินเตอร์เน็ตที่ช้าอืดอาดก็ตาม

ตอนที่สองแล้วสำหรับการทำเว็บไซต์ หลังจากที่เราได้ทำการสร้างเว็บไซต์ WordPress ของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนถัดไปของการทำเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานได้เข้าไปใช้อย่างสะดวกและปลอดภัยก็คือการตั้งค่า HTTPS เพื่อให้บริการเว็บไซต์ด้วยความปลอดภัยสูงสุด

เว็บไซต์ของเราจะใช้บริการคลาวด์ชื่อดังอย่าง Amazon Web Service ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเก็บไฟล์มีเดียด้วย AWS S3, การส่งคอนเท้นท์ไปทั่วโลกด้วย AWS CloudFront และเซิฟเวอร์ให้บริการที่ทำสำเร็จเพียงไม่กี่นาทีกับ AWS Lightsail

ใครอยากมีเว็บไซต์ ? ฉันหน่ะสิ ฉันหน่ะสิ แต่ยากมั้ย ? ก็ยากหน่ะสิ ยากหน่ะสิ แต่ในสตอรีนี้เราก็จะมาสอนวิธีการสร้างเว็บไซต์และใช้ WordPress ผ่านบริการคลาวด์ที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเองอย่าง Amazon Web Service (AWS) Lightsail พร้อมกับคำแนะนำในการทำให้เว็บไซต์นั้นสามารถเติบโต, ขยับขยายได้ตามความต้องการ และให้บริการได้อย่างรวดเร็วด้วย AWS S3, AWS CloudFront และ Plug-In ของ WordPress ที่เราก็จะนำมาแนะนำกันในสตอรีนี้ครับ

แต่สตอรีนี้อาจจะมีเนื้อหาที่บางคนอาจจะรู้จักกันแล้ว ดังนั้นเราเลยทำการแยกหน้าที่ในการทำงานต่าง ๆ ออกมาให้เพื่อนติดตามกันเป็นในลักษณะของซีรีส์ที่จะเต็มไปด้วยบริการของ Amazon Web Service อย่างเช่น Simple Storage Service (AWS S3), AWS CloudFront, AWS Identity and Access Management (AWS IAM), AWS Certificate Manager เพื่อให้เพื่อน ๆ สามารถนำไปทำตามกันได้อย่างง่ายดาย

Telegram นอกจากจะได้รับความนิยมในต่างประเทศและชุมชนผู้ใช้งานในประเทศไทยแล้ว แต่ก็ยังไม่รองรับภาษาไทยแบบเต็มตัว วันนี้เราจึงมาสอนวิธีการใช้ภาษาไทยบนแอพ Telegram ทั้ง iOS, Android, Windows, macOS, และ Linux โดยไม่ต้องดาวน์โหลดอะไรเพิ่มเติมอีกด้วย!

สองพี่น้อง Lumine และ Aether ที่ต้องพลัดพรากจากกันโดยเทพเจ้าโบราณในศึกที่เกิดขึ้น 500 ปีที่แล้ว โดยมีหนึ่งคน (ผู้เล่น) มีชีวิตรอดกลับมาได้และต้องการหาตัวพี่/น้อง ด้วยการใช้พลังจากเทพเจ้าทั้งเจ็ด (The Seven) ในเมือง Teyvat โดยมีเพื่อนร่วมทางที่บังเอิญไปเจอกันอย่าง Paimon ร่วมเดินทางไปด้วย

เกมสไตล์อนิเมะ-โรลเพลย์อย่าง Genshin Impact เป็นเกมสัญชาติจีน จากผู้พัฒนา miHoYo ที่ได้รับความสนใจทั้งในและต่างประเทศ พร้อมกวาดรางวัลการันตีความสำเร็จของเกม Best Game Design จากทาง Apple มาถึงสองปีติด เป็นการตอกย้ำความน่าสนใจในทั้งตัวเกม การออกแบบเกม ตัวละคร รวมไปถึงเรื่องราวและโลกกว้างที่ผู้เล่นสามารถไปค้นหาได้

พร้อมวิธีการเปลี่ยนและสมัครเป็นผู้แปลภาษา Telegram ให้เป็นภาษาไทย

สำหรับวันที่ 2 นี้ผมไปเที่ยวเกาะฮะจิมะสุดหลอน และ เฮาส์เทนบอชอันสวยงามเหมือนทุ่งดอกไม้ได้อย่างไร วันนี้ผมจะมาเล่าให้เพื่อนๆฟังครับ ต่อเนื่องจาก blog อันที่แล้วสำหรับวันแรกครับ และใน blog นี้เป็นวันที่ 2 ของการท่องเที่ยวในนะงะซะกิครับ

ส่วน story ผมไปเที่ยว เฮาส์เทนบอช ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่นี่ครับ

วันแรกของการเดินทางคนเดียวในนะงะซะกิจะเป็นยังไง ใน story นี้ผมจะมาเล่าให้ฟังครับ และถ้าเพื่อนๆ ยังไม่ได้เข้าไปอ่าน post ที่แล้วว่าผมมานะงะซะกิยังไง อย่าลืมไปอ่านด้วยนะ ลิ้งค์เพื่อไปอ่านอยู่ด้านล่างครับ

[รีวิว] เที่ยวเกาะคิวชู 10 วัน 9 คืน ละเอียดเว่อร์

และเราก็มาเรื่มกันเลย การเที่ยวในจังหวัดนะงะซะกิ

นี่คือจุดเรื่มต้นของทริปการไปคิวชูด้วยตนเองตอนที่ 1 ครับ ไปยังฟุกุโอกะได้อย่างไร เตรียมพร้อมอ่านกันได้เลย

แต่ทว่าผมยังมี blog ว่าผมเที่ยวอะไรบ้าง วางแผนการเที่ยวอย่างไร อีกด้วยครับ หากเพื่อนๆ อยากไปเที่ยวเหมือนผมบ้าง ก็สามารถเข้าไปดูได้ ที่ลิ้งค์นี้เลยครับ

ภูมิภาคคิวชู (Kyushu) ที่ประกอบไปด้วยที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากกว่า 10 รายการให้เพื่อน ๆ ได้ไปเที่ยวแบบหยุดเวลาได้อย่างดี แล้วจะบอกว่าถ้าเพื่อนๆ อยากมาลองหาประสบการณ์ใหม่ๆ แบบญี่ปุ่นธรรมชาติแล้ว ก็จะติดใจไปยาวๆ เลยครับ

วันนี้ในสตอรีนี้ ผมก็จะขอมาเล่าประสบการการเดินทางไปคิวชูเป็นครั้งแรกให้เพื่อน ๆ ได้เอาไปเที่ยวเองกันครับ